<< Go Back

ปาเอยาสูตรต้นตำรับ
       ในแคว้นบาเลนเซีย พื้นที่ที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่งกำเนิดของอาหารจานนี้คือบริเวณทะเลสาบอัลบูเฟรา (Albufera) ทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน มีที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบาเลนเซีย นอกจากนี้ลักษณะทางภูมิศาสตร์ก็เอื้ออำนวยต่อการใช้วัตถุดิบอื่น ๆ ในการทำปาเอยาเช่นดียวกัน สำหรับปาเอยาสูตรต้นตำรับนั้น ในหนังสือของดิโอนิซิโอ เปเรซ (Dionisio Pérez) นักเขียนและนักหนังสือพิมพ์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารสเปน กล่าวว่า วัตถุดิบที่รวมอยู่ด้วยได้แก่ ปลาไหล หอยทาก และถั่วเขียว อุปกรณ์ที่ใช้คือ หม้อก้นโค้งที่มีฝาปิดได้และใช้ความร้อนจากไฟที่เกิดจากการก่อฟืน

ที่มาของชื่อ

       paella เป็นคำในภาษาบาเลนเซียที่แปลว่า "กระทะ" โดยหมายรวมถึงกระทะทุกประเภท อาหารชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อตามคำว่ากระทะซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการประกอบอาหาร ในหลายภูมิภาคของประเทศสเปน (นอกเหนือจากแคว้นบาเลนเซีย) นิยมใช้ทั้งคำว่า paella และ paellera เพื่อสื่อความหมายถึงกระทะ ส่วนในทวีปอเมริกาใต้ คำว่า paella ยังสื่อความหมายถึงเครื่องครัวหลากหลายประเภทที่ใช้ในการประกอบอาหาร

1. เตาไฟฟ้า 2. เขียง
   
3. มีดขนาดต่าง ๆ 4. กระทะ
   
5. ที่คีบ 6. ช้อนขนาดต่าง ๆ
   
7. ชาม 8. หม้อขนาดต่าง ๆ
   
9. กระชอน

 

 
1. ข้าวรีชอตโต 2. กระเทียม 3 กลีบ
   
3. น้ำสต๊อกไก่ 2½ ถึง 3 ถ้วย 4. โครงไก่ 1 ตัว
   
5. อาหารทะเลสด 400 กรัม 6. มะเขือเทศหั่นเต๋า 1 ถ้วย
   
7. ถั่วลันเตา (แช่แข็ง)  ½ ถ้วย

8. หัวหอมใหญ่ 1 หัว

   
9. เกลือ 10. พริกไทยดำ
   
11. น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ 12. พริกแดงจินดา 3 เม็ด
   
13. โหระพา 1 ช้อนโต๊ะ 14. ผักชีฝรั่ง 1 ช้อนโต๊ะ
   
15. ผงขมิ้น 16. พริกเกาหลี

 

 

     1. ตั้งหม้อ เปิดไฟกลาง จากนั้นใส่น้ำสต๊อกไก่ 2 1/2 ถึง 3 ถ้วยลงไป


     2. ใส่น้ำเปล่า 1 ลิตร


     3. ใส่โครงไก่สับหยาบ ต้มไปเรื่อย ๆ มาดูเป็นพัก ๆ


     4. อาหารทะเลสด 400 กรัม ในที่นี้จะใช้ปลาหมึก กุ้ง และปลากะพง


     5. ปลาหมึก ดึงหัวออกจากตัวปลาหมึกระวังอย่าให้ดีหมึกแตก


     6. ผ่ากลางระหว่าง 2 ตา เพื่อนำลูกตาและดีหมึกออกจากนั้นล้างให้สะอาด


     7. ดึงกระดูกสันหลังที่มีลักษณะใส ๆ ในลำตัวปลาหมึกออก


     8. ลอกหนังกำพร้าที่ตัวปลาหมึกออก


     9. ผ่ากลางตัวตามแนวยาวให้ตัวปลาหมึกแผ่ออก

 

     10. ดึกปีกปลาหมึกออก


     11. ใช้ปลายมีดค่อย ๆ ขูดเมือกด้านในตัวออก


     12. ล้างปลาหมึกให้สะอาด โดยระหว่างล้างให้ใช้ปลายนิ้วถูเมือกออกให้มากที่สุด จากนั้นพักไว้

 

     13. สำหรับกุ้งให้ดึงหัวกุ้งออก (ตัวกุ้งไม่ต้องแกะเปลือกออกเพราะเปลือกจะช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้ตัวกุ้ง) จากนั้นนำตัวกุ้งไปล้างน้ำให้สะอาด


     14. ปลากะพง ให้หั่นแฉลบให้เป็นชิ้นพอดีคำ


     15. นำปลาหมึกที่ทำความสะอาดแล้วมากรีดเป็นลายตาข่ายโดยกรีดด้านในท้อง วางมีดเฉียงแล้วกดเบา ๆ ระวังอย่าให้ขาด


     16. จากนั้นผ่าตามแนวยาวลำตัว แล้วหั่นขวางให้เป็นชิ้นพอดีคำ


   17. ส่วนหนวดให้ตัดจุดแข็ง ๆ ออก


   18. ส่วนปีกปลาหมึกหั่นเป็นลายตาข่ายเช่นกัน


       19. สังเกตน้ำสต๊อกที่ต้มไว้ ให้ช้อนฟองและไขมันออกจะทำให้น้ำสต๊อกใส


       20. ปอกเปลือกหัวหอมใหญ่เป็น 2 ชิ้น จากนั้นหันตามแนวลายยาวของหัวหอม โดยวางมีดจากด้านบนหัวแล้วค่อย ๆ กดไล่ลงมายังปลาย ทำแบบนี้จนครบลาย (หั่นทั้ง 2 ชิ้น)


      21. จากนั้นหั่นตามขวางเป็นลูกเต๋า


      22. พริก (จำนวนเม็ดตามแต่ความชอบเผ็ด) โดยหั่นแฉลบไม่ต้องหนามาก


      23. นำมะเขือเทศมาหั่นเต๋าโดยผ่าครึ่งและแต่ละชิ้นก็ผ่าครึ่งอีกจะได้ 4 ชิ้น


      24. จากนั้นผ่าเอาไส้มะเขือเทศออกเพราะไส้จะทำให้อาหารมีรสเปรี้ยวเกิน (สามารถนำไส้ไปทำน้ำซุปได้)


      25. นำมะเขือเทศแต่ละชิ้นมาหั่นตามยาวและหั่นแนวขวางเป็นลูกเต๋า


      26. นำผักชีฝรั่งมาหั่นเป็นท่อนประมาณ 1 นิ้ว โดยใช้เฉพาะลำต้น


      27. เด็ดใบโหระพาใส่จาน

 

 

     1. บุกระเทียมและสับให้ละเอียด


          2. ตั้งกระทะยังไม่ต้องติดไฟ หลังจากใส่กระเทียมตามด้วยน้ำมันมะกอกจากนั้นเปิดเตาไฟฟ้า โดยใช้ไฟอ่อนถึงกลาง


      3. ผัดกระเทียมจนเริ่มมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่หัวหอมลงไปผัดสักครู่

       
          4. ใส่ถั่วลันเตาผัดสักพัก


          5. ใส่มะเขือเทศลงไปผัดสักพัก


          6. ใส่เนยจืด และพริกไทยดำ


          7. ปรุงรสด้วยเกลือ ผัดต่อสักพัก


          8. ใส่พริกหั่นแฉลบลงไปผัดต่อสักพัก

    
          9. ตักน้ำสต๊อกลงไปอีก 3 ช้อน ทัพพี



          10. ใส่ข้าวรีชอตโตที่ล้างไว้แล้วลงไป


          11. ตักน้ำสต๊อกลงไปให้ท่วมข้าวต้มต่อสักพัก

      
          12. ใส่พริกเกาหลีลงไปเล็กน้อย(ถ้าใส่เยอะข้าวจะแดง) ตามด้วยผงขมิ้นใส่เล็กน้อยให้พอมีสี คนให้เข้ากันจากนั้นรอจนเดือด

      
          13. พอเริ่มเดือด คนและชิมรสชาติถ้าหากน้ำสต๊อกเริ่มแห้งให้เติมน้ำสต๊อกลงไปอีก คนไปสักพัก (ถ้าหากสีข้าวอ่อนสามารถเติมพริกเกาหลีและผงขมิ้นได้) จากนั้นต้มต่อโดยคนเป็นระยะเพื่อไม่ให้ข้าวไหม้


          14. จากนั้นใส่ใบโหระพาครึ่งหนึ่งลงไป ผัดต่อสักครู่


          15. จากนั้นชิมข้าว ถ้าสุกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์แล้วให้ใส่กุ้งลงไป ตามด้วยใส่เนยจืดหั่นลูกเต๋าอีกประมาณ 5-6 ก้อน บริเวณที่วางกุ้งเพื่อเพิ่มความมันเงาให้กุ้ง


          16. จากนั้นใส่ปลาหมึกลงไป จากนั้นลดเป็นไฟอ่อนเพราะจะปล่อยให้น้ำในข้าวแห้ง


       17. ใส่โหรพาที่เหลือลงไป ตามด้วยเนยจืดหั่นลูกเต๋าอีก 5-6 ก้อน ต้มต่อกระทั่งน้ำเริ่มแห้ง


       18. ขณะรอข้าวให้มาทอดปลากะพงเพื่อเพิ่มความกรอบให้ข้าว โดยตั้งน้ำมันใช้ไฟกลาง


       19. นำปลากะพงมาคลุกเกลือ ตามด้วยพริกไทยขาว


       20. ตามด้วยน้ำมันมะกอกเล็กน้อย (น้ำมันมะกอกช่วยให้พริกไทยติดเนื้อปลา)


       21. มาสังเกตข้าว ใช้ช้อนขูดข้างกระทะ ถ้าด้านล่างเริ่มแห้งเกรียมให้ปิดไฟตั้งพักไว้จนกระทั่งน้ำแห้ง


       22. ทดสอบน้ำมันโดยใส่เศษใบผักชีชีฝรั่งลงไปถ้าร้อนแล้ว นำปลาลงทอดทอดจนสุกแต่ไม่ถึงกับแห้ง (ระวังอย่าให้เนื้อปลาแตกเป็นชิ้นเล็ก)



       23. ตักขึ้นพักที่กระดาษอเนกประสงค์สำหรับอาหาร (สังเกตข้าวแห้งประมาณหนึ่งแล้ว)

 

 

     1. ใช้ช้อนหรือตะหลิวขูดด้านข้างกระทะถึงก้นกระทะ ด้านล่างข้าวจะเกรียมตักขึ้นใส่จาน และใช้ช้อนค่อย ๆ กดข้าวให้เรียบ

 

     2. จัดวางของทะเลไว้ด้านบนข้าว


     3. จัดวางดอกไม้ทานได้ไว้ด้านบน

 


          1. การใส่กระเทียมขณะที่น้ำมันร้อน จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นฉุนอีกทั้งกลบกลิ่นอาหารอื่น ๆ ด้วย
          2. การใช้ไฟกลางต้มน้ำสต๊อกจะทำให้น้ำไม่ข้นจนเกินไป
          3. ข้าวผัดสเปนจะนิยมให้ข้าวด้านล่าง (ด้านก้นหม้อ/กระทะ) เกรียบหรือกรอบ
          4. ตัวเนื้อข้าวจะมีรสสัมผัสแบบนุ่มนอก ด้านในกรุบกรอบ

ข้อควรระวัง
          ขณะผัดข้าวระวังอย่าให้น้ำสต๊อกแห้ง มิเช่นนั้นข้าวจะไม่สุกและยังไหม้ติดหม้ออีกด้วย

    



<< Go Back